แนะนำวิธีแก้ไขเมื่อพบปัญหาเกี่ยวกับการโทรและวิดีโอคอล เช่น เสียงเรียกเข้าไม่ดัง, ไม่ได้รับการแจ้งเตือนสายเข้า
* ชื่อเมนูหรือข้อความที่แสดงบนอุปกรณ์แต่ละเครื่องอาจแตกต่างกัน
สารบัญ
-
โทรด้วยเสียง/วิดีโอคอลไม่ได้ หรือโทรแล้วสายหลุดเอง
-
เสียงเรียกเข้าไม่ดัง / ไม่ได้รับการแจ้งเตือนสายเข้า
-
มีข้อความแจ้งเตือนว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร / สายขาดๆ หายๆ
-
สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android: ภาพวิดีโอไม่แสดงขณะโทรวิดีโอคอล
-
สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android: พบปัญหาเมื่อต่ออุปกรณ์เสริม
-
วิธีแก้ไขเพิ่มเติมกรณีไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
โทรด้วยเสียง/วิดีโอคอลไม่ได้ หรือโทรแล้วสายหลุดเอง
เมื่อพบปัญหาในการโทรหรือวิดีโอคอล (เช่น เริ่มการโทร/วิดีโอคอลไม่ได้, การโทรปิดตัวเอง) อันดับแรก กรุณาลองดำเนินการดังต่อไปนี้
อุปกรณ์หลัก
- วิธีแก้ไขเมื่อพบข้อขัดข้องหรือปัญหาใน LINE (เช่น เปิดแอปไม่ได้, แอปปิดตัวเอง)
- ปิดและเปิดไมโครโฟนและลำโพงอีกครั้ง
- เลือกที่แท็บ "หน้าหลัก" ของ LINE >
> "โทร" > เปิดการตั้งค่า "อนุญาตให้โทรเข้า"
อุปกรณ์เสริม
เมื่อดำเนินการข้างต้นแล้ว โปรดดำเนินการด้านล่างต่อ
สำหรับผู้ใช้ iPhone หรือ iPad
1. เลือกที่ "การตั้งค่า" ของอุปกรณ์ > "ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย" > "ไมโครโฟน"
2. เปิดการตั้งค่าของ "LINE"
สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ Android
1. เลือกที่แท็บ "หน้าหลัก" ของ LINE > 
2. เลือกที่ "โทร" > "การตั้งค่าขั้นสูงสำหรับการโทร"
3. ปิดการตั้งค่า "เปิดใช้งานการโทรแบบ Full HD" หากมีหัวข้อดังกล่าวแสดง
4. เลือกที่ "โหมดการโทร" > "โหมดปกติ"
5. ปิดการตั้งค่า "ใช้ OpenSL"
หลังดำเนินการข้างต้นแล้ว กรุณาตรวจสอบเนื้อหาด้านล่างเพิ่มเติมตามอาการของปัญหาที่พบ
เสียงเรียกเข้าไม่ดัง / ไม่ได้รับการแจ้งเตือนสายเข้า
หากพบปัญหาเกี่ยวกับเสียงเรียกเข้า กรุณาตรวจสอบ
การตั้งค่าเสียงเรียกเข้าและการแจ้งเตือนของ LINE
หากตั้งค่าถูกต้องแล้วแต่ไม่มีเสียงแจ้งเตือน มีความเป็นไปได้ว่าปัญหาอาจมีสาเหตุมาจากอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน
กรุณาสอบถามไปยังบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์หรือบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์
หากตั้งค่าถูกต้องแล้วแต่ไม่ได้รับการแจ้งเตือน กรุณาลองใช้งานในบริเวณที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตเสถียร
สำหรับผู้ใช้ iPhone กรุณาตั้งค่าต่อไปนี้ด้วย
หากคุณใช้งาน iPhone แล้วพบปัญหาดังต่อไปนี้ กรุณาลองดำเนินการด้านล่าง
- การโทรปิดเองเมื่อกดปุ่มปิดเครื่องของ iPhone
- ประวัติการโทรของ LINE แสดงอยู่ในประวัติสายเข้าออก
วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น :
- เลือกที่แท็บ "หน้าหลัก" ของ LINE >
> "โทร" > ปิดการตั้งค่า "ใช้ฟังก์ชันโทรร่วมกับ iPhone"
* เมื่อตรวจสอบแล้วว่าการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าแสดงขณะปิดอยู่ กรุณาเปิดใหม่อีกครั้ง
หากลองดำเนินการข้างต้นแล้วแต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ มีความเป็นไปได้ว่าปัญหาอาจมีสาเหตุมาจากระบบของ iOS หรือ CallKit
* CallKit คือฟังก์ชันที่รวมแอปพลิเคชันการโทรของ iPhone และฟังก์ชันการโทรบางส่วนของแอปพลิเคชัน LINE ไว้ด้วยกัน
กรุณาลองอัปเดตเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ iOS เมื่อมีการออกอัปเดต
มีข้อความแจ้งเตือนว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร / สายขาดๆ หายๆ
การโทรและวิดีโอคอลของ LINE ใช้ระบบความปลอดภัยระดับสูง เพื่อป้องกันการดักฟังและสวมรอย จึงอาจส่งผลให้รับส่งข้อมูลไม่ได้ในสถานะการรับส่งสัญญาณบางสถานะ
ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานะการรับส่งสัญญาณอาจไม่เสถียร เช่น ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเชื่อมต่อใหม่เองซ้ำๆ โดยที่ไม่แสดงข้อบกพร่องดังกล่าวบนอุปกรณ์
กรุณาลองใช้งานในสภาพแวดล้อมที่สถานะสัญญาณดี หรือใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (4G, 5G, Wi-Fi) อื่น
สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android: ภาพวิดีโอไม่แสดงขณะโทรวิดีโอคอล
หากพบปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผลภาพขณะโทรวิดีโอคอล กรุณาลองดำเนินการดังต่อไปนี้
* กรุณาตรวจสอบอุปกรณ์ของทั้งสองฝ่าย
* อุปกรณ์บางรุ่นอาจไม่มีหัวข้อ "
ใช้ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอของอุปกรณ์"
1. เลือกที่แท็บ "
หน้าหลัก" ของ LINE >

2. เลือกที่ "
การตั้งค่าขั้นสูงสำหรับการโทร"
3. ปลดการเลือกที่ "
ใช้ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอของอุปกรณ์"
สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android: พบปัญหาเมื่อต่ออุปกรณ์เสริม
หากพบปัญหาเมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก เช่น อุปกรณ์ Bluetooth, หูฟัง, อุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนอื่นๆ อาจแก้ไขปัญหาได้โดนเปลี่ยนสิทธิ์ที่การตั้งค่า Bluetooth
1. เลือกที่ "
การตั้งค่า" ของอุปกรณ์ > "
แอป"
2. เลือกที่ "
LINE" > "
สิทธิ์"
3. เลือกที่ "
อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง" > "
อนุญาต"
หากดำเนินการข้างต้นแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ กรุณาลองดำเนินการตามวิธีด้านล่างเพิ่มเติม
- จับคู่อุปกรณ์ Bluetooth กับสมาร์ทโฟนอีกครั้ง
- ปิดและเปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth กับสมาร์ทโฟนซ้ำหลายครั้ง แล้วตั้งค่าเปิดในตอนท้ายสุด
- ปิดอุปกรณ์ Bluetooth อื่นที่เชื่อมต่ออยู่
- ชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ Bluetooth
หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยวิธีข้างต้น หมายความว่าปัญหามีสาเหตุมาจากตัวอุปกรณ์ กรุณาสอบถามไปยังผู้ผลิตอุปกรณ์ที่คุณใช้งานโดยตรง
วิธีแก้ไขเพิ่มเติมกรณีไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
หากลองดำเนินการทั้งหมดข้างต้นแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ กรุณาตรวจสอบและดำเนินการดังต่อไปนี้เพิ่มเติม
-
อัปเดตแอปพลิเคชัน LINE ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- อัปเดตระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- เพิ่มพื้นที่หน่วยความจำของอุปกรณ์ให้มีอย่างน้อย 2 GB
- ลบแอปพลิเคชันและข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกจากอุปกรณ์
- ปิดแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่ในระดับพื้นหลังทั้งหมด
- ปิดและเปิดอุปกรณ์และแอปพลิเคชัน LINE อีกครั้ง
- ตรวจสอบการตั้งค่าเสียงของอุปกรณ์ ดังนี้
การตั้งค่าหูฟังหรือลำโพง
เปลี่ยนการตั้งค่าหูฟังหรือลำโพงให้กลับเป็นค่าเริ่มต้น
- ติดตั้งไดรฟ์เวอร์ (Driver) เกี่ยวกับเสียงให้อุปกรณ์อีกครั้ง
ขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็น
หากมีความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าช่วยเหลือนี้ กรุณาแจ้งให้ทีมงานทราบ
* กรุณาอย่ากรอกข้อมูลส่วนบุคคล
* โปรดทราบว่าจะไม่มีการตอบกลับความคิดเห็นที่ได้รับจากแบบฟอร์มนี้